Episode 3
ตะลอน TOKYO เที่ยวงานหูฟัง
เช้าวันใหม่แล้ว เย้ๆๆๆ ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดของญี่ปุ่น คือลมโชยสบายๆ อากาศระดับ 21-24 องศาโดยประมาณ คนญี่ปุ่นไม่ชอบอากาศหนาวจัดหรอกครับ เพราะหมายถึงการสิ้นเปลืองพลังงานต่างๆโดยใช่เหตุ อากาศดีแบบนี้ต้องยืนเท่ๆ รับลมกันหน่อย เดี๋ยววันนี้เราจะไปงานหูฟัง ToKyo Headphone Festival กันล่ะครับ
มาถึงทางข้าม จริงๆเค้ามีป้ายห้ามข้ามอยู่ เจ้าเบียสบอกว่าเฮียๆๆ เค้าห้ามข้าม เห็นเปล่ามีป้ายแปะอยู่อันเบ้อเริ่ม ผมบอกเจ้าเบียสว่า อย่าโง่หน่อยเลย เราเป็นคนไทย ป้ายอันนั้นเค้าเอาไว้ห้ามเฉพาะคนญี่ปุ่นต่างหากว่ะ มึงไม่เห็นเหรอ ป้ายไม่มีภาษาไทยเลยซักกะตัวมีแต่ภาษาไทย เราเป็นคนไทยสามารถข้ามได้ไม่ผิดกฏจราจร 5555
ปล.อันนี้มุขครับ ใครอย่านึกว่าข้ามจริงๆล่ะ
ก่อนจะเข้างานหูฟัง ชาวคณะแวะกินข้าวหน้าปลาไหลกันก่อน ผมเองไม่เคยเห็นปลาไหลชิ้นใหญ่ขนาดนี้ในเมืองไทยมาก่อนจริงๆ ปลาไหลเมืองไทยออกแนวผอมบางและหนักซี่อิ๊ว แต่ปลาไหลร้านนี้ปลาไหลออกนิ่ม มัน เนียน เค็มหวานมันพอดี
ที่ญี่ปุ่นนั้นเวลาเค้าเชี่ยวชาญอะไร เค้าจะทำมันอย่างเดียวเลยในร้านนั้น และร้านนี้คือแชมป์ข้าวหน้าปลาไหลนั่นเอง ตายๆๆๆ กินปลาไหลที่นี่ติดใจ กลับไปจะมีปัญญาไปกินที่เมืองไทยหรือนี่ 555
เราเดินลัดเลาะเข้าซอยเพื่อไปทะลุตึก Sunplaza ที่จัดงาน Tokyo Headphone Festival ล่ะครับ |
วันนี้ที่เค้านั่งคุ้ยกัน แผ่นละ 100 เยน หรือราวๆๆ 32 บาทเท่านั้นเอ๊งงงงงง 5555 |
งานนี้ชื่อเต็มๆๆคือ Fujiya Avic headphone festival – Spring 2014 เป็นการจัดงานโดยร้านหูฟัง Fujiya Avic นั่นเอง ซึ่งร้าน Fujiya นั้นก็สถานะคล้ายๆร้านมั่นคงล่ะครับ เพียงแต่ร้านมั่นคงยังห่างแบบไม่เห็นขี้ฝุ่น ร้านหูฟัง Fujiya เป็นร้านขายหูขายแต่เค้าสามารถเป็นออร์กาไซเซอร์รวบรวมจัดงานได้ คล้ายๆที่มั่นคงจัดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาครับ ใครไม่ทราบมาก่อนดูลิงค์เลยครับ เมืองไทยเคยมีการจัดงานแบบนี้มาเหมือนกันจ้าๆๆๆ
Thailand's Canjoin ครั้งที่ 1 , Thailand's Canjoin ครั้งที่ 2
ผมเข้าลิฟท์แล้วตรงไปชั้นบนสุดก่อน จะได้เดินเลาะละเอียดๆๆ แล้วค่อยๆไล่ลงมาทีละชั้น อันนี้เป็นบูท ultrasone ตัวแทนในไทยก็คือคุณอาร์ทมิวสิคทูโฮมล่ะครับ
คนที่มาออกงานโดยมากเป็น distributor ของแบรนด์นั้นๆ คล้ายๆกับในบ้านเราล่ะครับ |
เจ้าเบียสไปยืนฟังอยู่หน้าบู้ท Rudistor ล่ะครับ |
ส่วนผมมาลองฟังแอมป์หูฟังของค่าย Olasonic อยู่ มีแอมป์แปลกดีไซน์เท่ๆๆด้วยล่ะ |
ใครเห็นปุ่มลักษณะนี้ ต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะไอ้ปุ่มแบบนี้ตอนนี้กลายเป็นสากลไปแล้ว คือกดปุ่มก็คือปิด แล้วหมุนไปทางขวาคือเร่งความดังจ้าๆๆ
พ่ามพ๊าม ใครจำลำโพงตัวนี้ได้บ้างเอ่ยๆๆ ในไทยคุณหมูหวานแห่ง Hifilover เป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่นะครับ มันคือลำโพงไข่ มีด้วยกัน 2 สีขาวกับดำจ้าๆๆๆ |
อันนี้เป็นสายอัพเกรดของญี่ปุ่น แบรนด์อะไรดูกันเอาเองครับ ตลาดสาย after market คึกคักดีมาก ส่วนมากเป็นแบรนด์แบบ Local สายอัพเกรดค่ายฝรั่งไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ ผมว่าน่าจะมาจากความที่เป็นชาตินิยมด้วยส่วนหนึ่งล่ะ 555
B&W อันนี้ทาง distributor น่าจะเป็นคนมาออก |
อันนี้ถือว่าเป็น Gadget แท้ๆๆอีกอย่างครับ 555 ญี่ปุ่นนั้นเวลาเค้าจะเล่นอะไร เค้าเอาจริงเอาจังมาก อย่างลำโพงเล็กๆอันนี้ เค้าพยายามยัดลงในกล่องไม้ แล้วทำให้มันแลดูคล้ายๆลำโพงวางหิ้ง เล่นทำให้มันเหมือนโมเดลย่อส่วนยังไงยังงั้น
เจออีกแล้วบู้ทเดนอน 555 ในญี่ปุ่นนี้เดนอนถึงขั้นเป็นยักษ์ใหญ่เลยนะครับ ไม่ใช่ยักษ์ตัวเล็กแล้วมาสมอ้างว่าเป็นยักษ์ใหญ่ งานนี้ในบู้ทเดนอนก็เอาเจ้า DENON DA-300USB มาออกด้วย
ใครที่ชอบงานผลิตที่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ใช่แนว DIY ชอบวัสดุเกรดดีๆ ผมว่าซื้อกระปุกหยอดรอไว้ก่อนล่วงหน้าก็ไม่เลวครับงานนี้ 555
ตอนนี้ผมยังนั่งลองฟังภายในบู้ทของเดนอนอยู่ครับ ส่วนมากแบรนด์ญี่ปุ่นนั้น ทาง Official จะมาออกกันเอง และทางเดนอนก็เช่นกันจ้าๆๆๆ
ผมกับเบียสยังอยู่ในบู้ทของเดนอนอยู่ สิ่งหนึ่งที่ผมจะต้องลอกการบ้านเอามาใช้ที่ไทยบ้าง นั่นก็คือเจ้าชามแก้วที่เรียงอยู่ด้านหน้านั่นล่ะครับ 555 เค้าเอาหูฟังใส่ชามไว้ ใครสนใจอยากฟังอะไรก็งัดเอาเพลย์เยอร์ของตัวเองออกมา แล้วหยิบหูฟังจากชามจิ้มลองได้ทันที ใครกินชามนี้อิ่มก็กินชามถัดไปต่อได้เลยว่างั้น เจ๋งไม๊ๆๆๆๆ 555
อันนี้มาถึงบู้ทของ Luxman ครับ ผมไม่แน่ใจว่าในไทยใครเป็นคนทำตลาดอยู่ จำได้ว่าผมเคยมีแอมป์ไฮบริจด์ของลักซ์แมนอยู่ เสียงเนียนหวานลื่นมากๆๆ งานนี้ลักซ์แมนมีแอมป์หูฟังขนมาให้ลองเต็มพิกัดด้วยล่ะ
ถัดมาเป็นแอมป์ Local ญี่ปุ่นอีกรายครับ เป็นแอมป์ที่เจ้าหลุยส์บอกผมว่าน่าสนใจ นั่นคือ MH-Audio ไปถึงผมไม่ถามถึงตัวไหนกันล่ะ ถามหาตัวท็อปกันก่อนว่างั้นๆๆๆ
ตัวนี้น่าจะถูกโฉลกกับคนไทยที่ชอบปรับแต่ง คือมีปุ่ม hi-low gain แล้ว ยังมีปุ่มปรับเบสและแหลมแยกไว้ข้างๆอีกด้วย ซึ่งด้านหน้าเป็นโวลุ่ม ใครอยากปรับก็ปรับเอาด้านข้าง วัสดุดูดีมากๆๆเลยครับ
แอมป์ญี่ปุ่นนั้นยังเน้นแนวลูกกวาดอยู่ คือปุ่มหลากสีให้เลือก ซึ่งปุ่มสีๆเหล่านี้เอาไปขายคนไทย มีหวังค้างสต๊อกกันบาน เพราะคนไทยรสนิยมต่างจากญี่ปุ่นมากๆๆเรื่องนี้ครับ 555
หลังจากลองฟังไปพักนึงก็ถามว่ามีราคาจำหน่ายแบบส่งหรือเปล่า ปรากฏว่าอีตา Jiro Kubo กล่าวขออภัย เพราะแกทำของแกอยู่คนเดียวเสียวทุกวันทำนองนั้น 555 แกส่งขาย world wide แต่ขายราคาเต็มๆ ครับ ผมก็เลยโอเคๆๆ ถ่ายรูปร่วมกันจั๊กหน่อย 555
อันนี้เป็นแบรนด์อะไรจำชักไม่ค่อยได้แล้วล่ะครับ 555 ต้องขออภัยจริงๆๆครับ |
อันนี้เป็นแบรนด์แปลกๆๆไม่ค่อยคุ้นหูคนไทย Phasemation ครับ ราคาเอาเรื่องอยู่ เป็น dac ราคาสองแสนกว่าๆๆครับ |
อันนี้สวมมาจากบ้านเลยแหง๋มๆๆ ครับ 555 จริงๆผมว่าผู้หญิงญี่ปุ่นเล่นหูฟังมากกว่าผู้หญิงไทย เพราะส่วนหนึ่งหญิงไทยอาจจะหมดเวลาไปกับการด่าสามี หรือด่าแฟนตัวเอง เลยทำให้ไม่มีเวลาพอไปฟังเพลงว่างั้น 555>>>
อันนี้จำไม่ได้อีกเช่นกันขออภัยจริงๆจ้าๆๆๆ 555 คืออันไหนถ้าหน้าตาพิลึกพิลั่นจนกว่าคนไทยจะสนใจ ผมจะเดินข้ามไปก่อนน่ะครับ |
อันนี้เป็นแอมป์หูฟังของ KORG ในไทยผมเห็นผ่านตาแว่บๆๆว่ามีคนนำมาจำหน่ายแล้วครับ หน้าตาการออกแบบสวยงามดีครับ |
ในงานมีการผสมระบบ 2 channel มาด้วยเล็กน้อยพอเป็นน้ำจิ้มครับ บักโจบอกกับเราว่า งานหูฟังในญี่ปุ่น น่าจะมีคนแห่เข้าชมงานมากกว่างานออดิโอโชว์ของญี่ปุ่นด้วยซ้ำ อันนี้ผมไม่แปลกใจนัก เพราะว่าเทรนด์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยน ยิ่งประเทศที่มีพื้นที่ต่อตารางเมตรแพงขนาดนี้เทรนด์ยิ่งเปลี่ยนง่ายครับ
ภาพนี้หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมเฮียเอามาให้ดูแบบนี้ 555 จริงๆแล้ว ผมเห็นพริตตี้สาวสวยหลายท่านนี้ ผมสะกิดเจ้าเบียสเข้าไปบอกว่าถ่ายรูปกับน้องๆๆเร็วๆๆ ถ่ายรูปหมู่ซะเลย ปรากฏว่าพอผมเดินปราดเข้าไปตรงกลางพริตตี้ของ monster ทางทีมงาน monster ยกมือขึนทำท่ากากะบาท
คือห้ามถ่ายรูปเองโดยเด็ดขนาด ผมพยักหน้าหงึกๆยอมรับสภาพ แต่แล้วทีมงานเค้าบอกว่ายูไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ยืนเฉยๆๆ เดี๋ยวไอทำให้เอง ว่าแล้วเค้าก็หยิบกล้องโพลาลอยด์มาถ่ายภาพ แล้วหยิบให้ผมกับเบียสคนละใบ 555
อันนี้เป็นห้อง Astell & Kern ครับ เค้ากำลังโชว์ให้เห็นว่าภาค DAC ของตัวเพลย์เยอร์สุ้มเสียงเป็นอย่างไร ด้วยการต่อเข้ากับปรีแอมป์และเพาเวอร์แอมป์แล้วออกลำโพงบ้าน ผมเห็นคนมุงเยอะดี ก็เลยเข้าไปมุงกับเค้ามั่งว่างั้น 555
พอเดินออกมาจากห้องได้อีกพักเดียวก็มีคนมาทักทาย พอหันไปอ้าวเฮ้ยคุณ BirdOffice นั่นเอง ผมเองเห็นคุณ Bird มาญีปุ่่นบ่อยๆจนนึกว่าอยู่ญี่ปุ่นซะอีก ก็เลยจับหิ้วปีกถ่ายบันทึกลงแฟ้มประจำวันซะเล้ยๆๆๆ 555
ตอนนี้ผมอยู่หน้าบู้ทของ AKG ครับ บู้ทนี้ทาง distributor เป็นผู้มาออกเช่นกัน ในไทยเราบริษัท เอ็มไอ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ก็เป็นตัวแทนอยู่ ที่นี่โชว์ของเมืองไทย แต่ทำไมผมไม่เห็นตัว AKG K812 เลยหว่าๆๆๆ สงสัยจะโดนไทยสอยมาจนหมดแล้วนั่นเอง 555
ในโซนนี้จะเป็นแบรนด์อินเตอร์ค่ายใหญ่ๆๆ ทั้งสิ้นครับ เค้าวางไว้เป็นสัดส่วน และ AKG ก็อยู่ตรงนี้กับเค้าด้วยล่ะครับ แบรนด์ AKG นี่ถือว่าเป็นแบรนด์หูฟังอาชีพ และเก่าแก่มากๆๆแบรนด์หนึงของโลกครับ พวกนี้ระดับเกินร้อยปีทั้งนั้น เห็นนั่งกันเอาเป็นเอาตาย ผมนึกว่าเค้านั่งกินราเม็งกันซะอีก แต่ไม่ใช่ครับ เบียดกันนั่งเพื่อทดลองฟังสินค้านั่นเอง แหมที่เมืองไทยถ้าเป็นแบบนี้ชื่นใจตายเลย 555
เย้ๆๆๆ เห็นแล้วครับ นันคือหูฟังตัวท็อปจากค่าย AKG K812 นั่นเอง เมื่อกี๊ไปมองที่บู้ทมาแหม่บๆๆไม่เห็น แต่มาโผล่ตรงนี้ ใครสนใจเจ้า AKG K812 ตอนนี้บอกได้ว่าที่เมืองไทยมีของเลยที่ร้านมั่นคงนะครับ สวนญี่ปุ่นไม่มีของให้เห็นเท่าไหร่คร้าบบ 555
อันนี้เป็นค่าย Fiio ส่งนางงามเข้าประกวดในรุ่น X5 ล่ะครับ ที่ไทยราคาไม่แพงคือ 12900 เท่ากันทุกที่ครับ |
ดูของ CW กันอีกหน่อย แล้วก็เดินเอื่อยๆไปมุมอื่นมั่งล่ะครับ |
ทางค่าย CW จัดเต็ม โชว์ทุกอย่างครบๆ เจ้าของแบรนด์ผู้ลงมือทำเองก็มาเองกับภรรยา ทางมั่นคงก็เป็นตัวแทนจำหน่ายหูฟัง Custom จากค่าย Canal Work กับเค้าเหมือนกันนะคร้าบบ 555
จำได้ว่าผมเดินเข้าไปใกล้ๆบู้ท แล้วพยายามสบตามองหน้ากัน ปรากฏว่าคุณ Kazuhiro Hayashi แกหันมาพอดี ต่างคนต่างสบตาแล้วร้องเย้ๆๆๆ เหมือนเจอเพื่อนที่พลัดพรากจากกันไปนานทำนองนั้นล่ะครับ 555 ผมยืนคุยกับแกอยู่พักนึง แล้วต้องขอตัวออกมาก่อน เพราะคนรอให้แกอธิบายให้ฟังเยอะมากๆๆๆ
ใครสนใจไปหาหลุยส์ที่อัมรินทร์ได้อีกเช่นกันจ้าๆๆๆ 555 วันนี้เหมือนเจอญาติไปอีกคนล่ะ ผมไม่ได้ขอหิ้วปีก เพราะในงานคนแน่น และอีกอย่างกลัวคุณฮายาชิไม่เก็ทมุข อาจจะโดยภรรยาแกแพ่นกบาลเอาก็ได้ 555 (นึกว่าไปกอดผัวแกเข้า)
อันนี้น่าจะเป็นโต๊ะของดีลเลอร์ ALO ในญี่ปุ่น งานนี้บักเคนไม่ได้มาครับ การจัดแสดงเป็นหน้าที่ของทางดีลเลอร์ในญี่ปุ่นนั่นเอง เหมือนกับในไทยครับ ถ้ามีงานโชว์ ผมเองก็คือผู้นำสินค้าไปโชว์ในงานเช่นกันครับ 555
ภาพนี้เป็นตัวแทนจำหน่ายประจำสิงคโปร์ครับ ทาง Audeze อเมริกาให้บริษัทเอ็งเสียงเป็นคนดูแลใหม่ และทางไทยก็เพิ่มดีลเลอร์เข้าไปอีก 2-3 ราย แต่ที่มั่นคงก็ยังมีสินค้าจำหน่ายกันตามปกติทุกอย่างครับ นี่ก็รอว่าเมื่อไหร่เจ้า LCD-3, LCD-XC จะมาซักกะที 555
ผมพาคุณสินมหาจักร มาเดินดูตรงบู้ทที่โชว์หูฟัง Audeze และหารือกันว่าเมืองไทยน่าจะมีการจัดงานหูฟังในลักษณะนี้ ที่ผ่านๆมาเราเคยจัดงานหูฟังมาแล้วก็จริง แต่ดูเหมือนจะเข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายเท่าที่ควร เพราะเป็นการจัดพ่วงไปกับงานเครื่องเสียงบ้าน และแถมมีการจำหน่ายบัตรก่อนเข้างาน
ซึ่งผมคิดว่าเมืองไทยควรจัดงานหูฟังแบบเอกเทศ ไม่เป็นเหล้าพ่วงเบียร์ของใคร เอาง่ายๆไม่ต้องใหญ่มากก็ได้ คือขนาดเท่าๆเดิมที่เคยจัด และขอให้อยู่ในพื้นที่รถไฟฟ้า และอย่าเก็บบัตรเข้างานเด็ดขาด ผมเชื่อว่าน่าจะกระตุ้นความสนใจนักเล่นชาวไทยได้
ใครสนใจยกมือขึ้น เดี๋ยวผมจัดให้ๆๆๆๆ 555
อันนี้เป็นโต๊ะที่วาง Audeze และ ALO ผมเดาว่าตัวแทนคือคนๆเดียวกันเหมือนกับที่มั่นคงเป็นในไทยล่ะครับ แต่ตอนนี้เจ้าของบู้ทหลบไปไหนแล้วไม่รู้ ผมว่าจะทักทายหน่อยว่าเป็นไงมั่ง 555
เดินต่อมาอีกนิดก็ถึงบู้ทของ Unique Melody ครับ งานนี้ Official มาเองเลย แบรนด์ UM นั้นคนไทยคุ้นเคยกันมานาน และคนที่ทำตลาดให้กับ Unique Melody มายาวนานก็คือเจ้า Stephen คนที่สวมแว่นคนนี้นั่นเอง ผมเห็นหน้าขาวๆๆอายุน้อยๆเพียงแค่ 24 ขวบ ทำไมมันเก่งขนาดนี้วะเนี่ย
ส่วนคนขวาคือแซม ซู Sam Zou เป็น Technical Director หรือดูแลเทคนิคการผลิตนั่นเอง แบรนด์นี้ใครอยากได้อะไร ไปหาหลุยส์ได้เลยนะครับ เค้าทำงานแบบไม่หลับไม่นอนเหมือนกัน เนื่องจากเป็นคนหนุ่ม เลยลุยงานหนักแบบบ่ยั่นครับ 555
จัดอีกดอกนึงละกัน เจ้า Stephen แห่ง Unique Melody คนนี้ผมเมล์คุยสั่งของเป็นวักเป็นเวร จนหลังๆ โอนทุกอย่างให้เจ้าหลุยส์เป็นคนทำแทน เพราะว่าสู้แรงเจ้า Stephen ไม่ไหวครับ พวกนี้ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน เมล์ตอนไหนตอบตอนนั้น ขนาดผมเองว่าเป็นนักท่องเน็ตยังยอมแพ้เลยครับ 555
อันนี้เป็น Fiio เวอร์ชั่นคอนโด 2 ชั้น เคสออกแบบให้มีเงี่ยงเพือรับยางรัดได้อย่างดี |
อันนี้ไม่มีอะไรครับ ผมไม่แน่ใจว่าในไทยมีขายหรือเปล่า แต่ผมว่าจะซื้อมาใช้ภายในร้านมั่นคงครับ มันเป็นตัวจ่ายไฟขนาด 5 โวลท์ให้กับพอร์ท USB แต่เป็นการจ่ายแบบรวดเดียวหลายๆตัวพร้อมกัน ทำให้เราสามารถต่ออุปกรณ์ในบริเวณเดียวกันได้เป็นอย่างดีครับ
คราวนี้ถึงคิว JBL แล้ว ตั้งแต่ปีที่ผ่านมานั้น JBL มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างนโยบายกันใหม่ ทำให้โปรดักท์ตอนนี้ออกมาแต่ละตัวโดนใจตลาดกันจังๆ หลายต่อหลายรุ่นประสบความสำเร็จสูงปรี๊ด ในไทยคึกคักสุดขีดกับไลน์สินค้าในยุคใหม่นี้เช่นกัน 555
ตระกูล Synchros นันขายดีเหมือนกัน มาที่นี่ผมพยายามลอกแบบการวางหูฟังตัวเล็กๆอยู่ เมื่อกี๊เห็นทาง Denon หยิบใส่ชามแก้ว แต่พอมา JBL ที่วางหูฟังดูเหมือนไม่โดนใจนัก อย่ากระนั้นเลย ไปลอกการบ้าน Denon ดีกว่า 555
แล้วผมกับเบียสก็เลี้ยวเลาะมาถึงบู้ท westone ครับ อันนี้เป็นดิสทริบิวเตอร์มาออกเช่นกัน คึกคักกันดีสำหรับค่ายนี้ ทางมั่นคงก็จำหน่ายแช่นกันครับ ผู้นำเข้าก็คือ Deco2000 นั่นเอ๊งๆๆๆๆ 555
อันนี้ดูเหมือนจะสวย แต่มองไปมองมาผมว่ายังไม่ลงตัวนัก 555 คือเค้าเอาหูเทียมมาแปะติดกับไม้ แล้วเอาตัวโมลเปล่าๆ ยัดลงไปในหู มองแล้วไม่เก็ทเท่าไหร่ แต่ก็โอเคดีอยู่ล่ะครับ 555
ผมลองหยิบขึ้นมาถือ ฟิลลิ่งพอโอเค แต่เดี๋ยวผมว่าจะออกแบบโมลสำหรับโชว์หูฟัง westone ใหม่ดีกว่า ตอนแรกกะว่าจะแอบซิวใส่กระเป๋ามาเป็นตัวอย่าง แต่เนื่องจากยังไม่อยากติดคุกตอนแก่ ผมก็เลยวางไว้ที่เดิมล่ะครับ 555
ใครสนใจหูฟัง Custom แบรนด์ Westone จัดเต็มทุกรุ่นได้ที่ร้านมั่นคงเช่นกันครับ ไปหาเจ้าหลุยส์แล้วแจ้งเจตน์จำนงค์ยื่นใบสมัครรักสมัครแฟน แล้วพิมพ์หูทำได้เลยครับ 555
อีกไม่นาน westone จะรับทำหูฟัง custom ที่พารากอนให้กับชาวต่างชาติ และคนไทยที่สนใจทุกท่านด้วยนะครับ เพราะแบรนด์นี้ผมบริหารเวลาได้เร็ว เดือนนิดๆๆก็ได้ของแล้วจ้าๆๆๆ
ดูเล่นทางซ้ายก่อน ตัวการ์ตูนกำลังใส่หูฟัง Sennheiser HD700 ล่ะครับ 555 |
เวลาดูว่าตลาดสินค้านั้นๆโตพอหรือยัง ผมว่าการมองจากแมกกาซีนนี่มีผลมากๆๆครับ ญี่ปุ่นเค้ามีนิตยสารเฉพาะทางอย่างหูฟังกันหลายเล่ม!!! ใช่แล้วครับหลายเล่ม ไม่ใช่แค่เล๋มเดียว แสดงว่าผู้บริโภคนั้นมีความสนใจและค้นคว้าเปรีบบเทียบกันอย่างสูงตลอดเวลาครับ
ผมเดินเอื่อยๆๆเตรียมจะลงไปอีกชั้นหนึ่ง มีชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียวเดินเข้ามา ผมกำลังเดินจะออกไป ต่างคนต่างสบตา แล้วหยุดนิ่งเป็นเวลา 3 วินาที ก่อนก็ร้องเฮ้ยยยย นี่มึงหรือนี่ๆๆๆ 5555 ท่านนี้ไม่ใช่ใคร admin อันดับหนึ่งของอินโดนีเซีย หรืออาจจะเป็นอันดับต้นๆของโลก
Michael Ting นั่นเอง ไมค์ ติง เป็นเจ้าของเว็บไซด์ Headfonia.com และมีร้านในหูฟังในอินโดเช่นกัน เราคุยกันทางเมล์มานานมากๆๆ และผมเองก็เคยส่งหูฟังบางรุ่นที่เค้าหาไม่ได้ไปให้เค้าลองบ่อยๆ จำได้ว่าเจอกันปุ๊บ โผเข้ากอดกันปั๊บ แต่ไม่ได้ดูดปากกันดังจ๊วบดังที่หลายคนอยากให้เป็น 555
เจอญาติอีกคนแล้วโว้ยยยย ผมเองก็ดีใจ การเล่นอินเตอร์เน็ทได้คุยกับใครมานานๆ แล้วมีโอกาสได้เห็นหน้ากันจริงๆ ผมว่าความรู้สึกนี้ยากจะบอกจริงๆครับ เราคุยกันเป็นวักเป็นเวรยกใหญ่ แล้วต้องถ่ายภาพหิ้วปีกกันตามระเบียบ พวกต่างชาติเค้าอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นท่าหิ้วปีก
แต่ผมจะบอกว่านี่เป็นสเปเชียลช๊อตที่ต้องถ่ายว่างั้นๆๆๆ 555 วันนั้นแยกจากกันในงาน แต่คืนวันรุ่งขึ่้นผมไปเดินสวนกันกับไมค์อีกทีที่รถไฟใต้ดินที่ชินจูกุ ขำมากๆๆว่าที่กว้างตั้งแยะ แต่ทะลึ่งมาเดินเจอกันอีกตอนดึกๆๆ 555
อันนี้เห็นแว่บๆๆ มันคือหูฟัง Grado นั่นเองครับ 555 สไตล์ผมมักจะไม่ค่อยถ่ายภาพโปรดักท์เท่าไหร่ เพราะส่วนมากแต่ละเว็บมักจะอัพเดทรูปของใหม่ๆกันหมดแล้ว และกล้องเค้าก็คุณภาพดีกว่ากล้องป๊องแป๊งแบบผม ผมเลยหนักไปทางถ่ายภาพและมีคนอยู่ซะมากกว่าจ้าๆๆๆ 555
อันนี้อะไรหว่า ดูไปดูมาลืมไปเฉยๆๆซะงั้นๆๆๆ 555 |
อันนี้น่าจะเป็นดีลเลอร์ที่ขายของหลายๆยี่ห้อรวมกันครับ |
ในภาพนี้คือคุณโจ(คนสวมหูฟังสีขาว) นั่งติดกันคือคุณรัลแห่ง Prpplugin ครับ เจอกันในงานพอดี ก็ทักทายคุยกันไปยกใหญ่ แล้วสุดท้ายก็เห็นพ้องต้องกันว่า ตลาดหูฟังในไทยทำไมเล็กจิ๊ดเดียวเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นอ่ะ 555
ไม่เป็นไรๆๆ อดทนอีกหน่อย ไว้ว่างๆจะหารือกันหาทางจัดงานแบบนี้มั่งดีกว่า
ปากไม่ต้องพูด ก็เราใช้หูฟังอย่างเดียวก็พอนี่นา.....555 |
บู้ทนี้เป็นของค่าย Linkman audio ผมไม่ได้แวะเข้าไปฟังล่ะครับ |
น้องนางบ้านนาคนนี้ ถ้าเห็นในที่สลัวๆกว่านี้หรือมืดกว่านี้อีกนิด ผมว่ามีหวังจับไข้หัวโกร๋นแน่ๆๆ เพราะการแต่งกายหลายๆอย่างๆ คล้ายๆกับหนังแนวปีศาจอาฆาตพยาบาท เทือกๆ ชัตเตอร์ติดวิญญาณทำนองนั้นล่ะครับ 555
อันนี้เป็นฮอลล์ใหญ่ครับ จริงๆแล้วในไทยมีพื้นที่แบบนี้เหมือนกัน ตามโรงแรมจัดงานทำนองนี้ได้ไม่ยากนัก ข้อคิดคือเค้าจัดกันแค่ 2 วัน ไม่เน้นขาย คือเน้นการโชว์ซะมากกว่า ทำให้ 2 วันนี้สามารถดูแลลูกค้าได้ดี อธิบายสินค้าได้ดี ร่างกายไม่กรอบจนเกินไป ในไทยผมจัด 4 วัน ปรากฏว่าบักโกรกเลยครับ 555
ส่วนงานของไทยเน้นขาย เน้นจัดโปรโมชั่น ทำให้รูปแบบงานพลาดวัตถุประสงค์ไป และอีกอย่างการจัดงานแบบไทยนั้น พอเน้นขายทำให้คนทั่วไปไม่อยากมาลองเปล่าๆเท่าที่ควร ถ้าเน้นโชว์และห้ามขาย ผมว่าตลาดไทยไปได้ไกลอีกแน่ๆๆครับ ผมเองอยากออกแรงจัดแบบเน้นโชว์ และแสดงกันแบบล้วนๆๆ ผมว่ามันน่าจะทำให้คนที่ลังเล กล้าพอที่จะมาเดินโดยไร้แรงกดดัน 555
อันนี้มาถึงค่าย custom ยี่ห้อว่า CTM จ้าๆๆๆๆ
โต๊ะนี้เป็นไวนิล เดี๋ยวผมจะวนกลับมาเล่าอีกทีนะครับ |
หูฟังตัวนี้จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร และผมพลาดการทดลองฟังไปอย่างน่าเสียดายครับ 555 จำไม่ได้จริงๆว่ายี่ห้อไร เสียงไร |
ยี่ห้อนี้ก็ไม่ได้ลองฟัง TT |
อันนี้คุณกิตมหาจักรกับบักโจ คุณกิตแวะจอดสถานีที่บู้ทนี้ครับ ทางมหาจักรเป็นผู้นำเข้าหูฟังรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในไทย ความสงสัยว่าทำไมตลาดหูฟังเมืองไทยถึงไม่เติบโตได้เท่ากับตลาดญี่ปุ่น เป็นเรื่องที่เราต้องมาช่วยกันขบคิดครับ ผลสรุปในขั้นต้นว่าเป็นจากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของคนเป็นอันดับแรก เพราะคนญี่ปุ่นใช้ชีวิตกับรถสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ ความต้องการของหูฟังเลยเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องไปทำอะไรมันมากนักล่ะครับ
บู้ทนี้เป็นหูฟังอิเลคโทรสแตติกยี่ห้อดังอย่าง STAX ครับ เป็นหูฟังที่เป็นอีกระบบหนึ่งที่ต้องใช้แอมป์ที่มี socket เฉพาะในการขับ มีสไตล์เสียงเป็นของตัวเอง ในไทยคุณเจ็ทแห่งร้านเจ็ทไลท์เป็นตัวแทนจำหน่าย STAX ก็เป็นหูฟังแบรนด์เก่าอีกแบรนด์หนึ่ง ผมเดาว่าอายุอานามน่าจะพอๆๆกับหูฟัง denon เหมือนกันล่ะครับ
อันนี้น่าจะเป็นบู้ท Furutech กับ ADL ครับ ใช้หูฟัง denon เป็นตัวอ้างอิงให้กับลูกค้าทั่วไปล่ะจ้าๆๆๆ
อันนี้ก็พลาดไม่ได้ฟังอีกเหมือนกัน กับค่าย AudioFly ครับ |
จะเดินเข้าไปหิ้วปีกสอดแขนเข้าใต้จั๊กแร้สาวๆทั้งสองคน ก็กลัวผัวเค้ามาต่อยปากเอาล่ะครับ 555 |
อันนี้ใช่เสนาหอยตอนปล่อยผมหรือเปล่าหว่า ผมสงสัยว่าอันนี้อาจจไม่ใช่ผมจริง แต่เอาวิกผมการ์ตูนมาใส่ซะมากกว่า น่ายืมหัวไปปัดฝุ่นในห้องนอนผมซะหน่อย |
เย้ๆๆๆ มาอีกอันล่ะครับ คราวนี้ย่อส่วนลำโพงบ้านให้ออกมาเป็นตัวจิ๋วๆซะเลย สุ้มเสียงผมไม่ได้ฟัง แต่เปิดยังไงผมก็ว่าคงดังได้แค่มุ้งมิ้งไปเรื่อย ถ้าไซส์เล็กขนาดนี้ ใจผมยังถือหางลำโพงเล็กอย่าง X-MINI อยู่ดีจ้าๆๆๆ
อันนี้คือ ADL อีกมุมหนึ่งครับ ในไทยคุณพี่ป๋ากัมปนาทแห่งบริษัท Clef Audio เป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่ ใครอยากได้อะไรที่เป็น ADL หรือ Furutech โทรสั่งป๋ากัมปนาทได้เลยครับ ราคาพิเศษถูกกว่าชาติใดในโลก ขายถูกราวกับไปขโมยมาจากโรงงานญี่ปุ่นมาขายซะอีก 555
แหม ลืมรูปนี้ได้ไง ลองมองสัดส่วนของมือผมกับลำโพงนะครับ อันนี้ขำๆละกัน ถ้าจริงๆ ผมว่าคนไทยเล่นไม่ได้หรอกครับ 555 |
อันนี้น่าใจเหมือนกัน น่าจะเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อคั่นกลางระหว่าง player กับหูฟัง เป็นอุปกรณ์ conditioner คือไม่มีการเสียบไฟหรือแบตเตอรี่ แค่ต่อเชื่อมตรงกลางเท่านั้น ตัวนี้ผมลองฟังดูโอเคอยู่ แต่ลังเลว่าคนไทยนั้นถ้าเร่งไม่ได้เหมือนแอมป์อาจจะไม่สนใจ ผมก็เลยขอนามบัตรและแคตตาล็อคมาก่อนครับ
ตรงนี้เป็นอีกมุมหนึ่งของ player ยี่ห้อ Astell & Kern ครับ ที่มั่นคงมีขายครบๆทุกรุ่น มีเดโมครบ อยากได้อะไร บอกได้ทันทีตลอดเวลาจ้าๆๆๆ
ภาพกระโดดข้ามกันนิดหน่อย อันนี้เป็นเจ้าตัว conditioner ที่ผมว่าไว้ ยี่ห้อ nice sound ครับ ต่อแล้วเสียงฉ่ำขึ้น อิ่มหนาขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่ามันดังขึ้นนะครับ แต่มันปรับเสียงให้มีความกังวานขึ้นได้ อยากได้กันมั่งไม๊เนี่ยๆๆๆ 555
อันนี้เป็นบู้ทของ Shure ครับ รู้สึกว่า Shure นี่เป็นแบรนด์ขาใหญ่ของญี่ปุ่นแบรนด์หนึ่ง คือเป็นแบรนด์ฝรั่งที่ญี่ปุ่นคลั่งไคล้กันมาก จริงๆแล้วอะไรที่เป็นของฝรั่ง อย่านึกว่าคนญี่ปุ่นเค้าจะเห่อนะครับ เค้าจะเลือกเป็นบางแบรนด์บางค่ายเท่านันเองจ้าๆๆๆ
เค้ามีตู้ไว้ให้เล่นเกมส์ คือเอานิ้วจิ้มจอแล้วลูกบอลในจอมันจะตกลงมา แล้วตกออกมาเป็นหมายเลขอะไรก็รับรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านไป ผมเองไม่ลังเล แอบเนียนต่อคิวไปจิ้มกับเค้าเหมือนกัน เอาวะดูว่ามันจะคล้ายๆตู้ม้าที่ผมเคยถนัดตอนสมัยหนุ่มๆๆหรือเปล่า 555
ปรากฏว่าผมจิ้มได้เป็นที่เก็บหูฟังครับ ใครที่มีนิ้วเดินเข้าไปจิ้ม ย้ำครับ ขอให้แค่มีนิ้ว จะเป็นนิ้วข้างไหนก็ได้ หรือใช้อวัยวะอะไรที่สามารถมีความแข็งแล้วจิ้มหน้าจอได้
ทาง Shure เค้าแจกของติดมือให้กับทุกคนทันที ผมว่าจะวนอีกรอบเข้าไปจิ้ม แต่อายและไม่อยากให้เค้าดูถูกว่าเราเป็นชาติชอบแอบเนียนรับของล่ะครับ 555
มาถึงไฮไลท์ที่ผมสนใจมากๆๆ และใช้เวลาฟังไปพักนึงก็คือการฟังแผ่นไวนิล ผ่านแอมป์หูฟังยี่ห้อ EAR HP4 ราคาราวๆไม่ถึงสองแสน เจ้าหน้าที่จะถามผมก่อนเลยว่าจะฟังแผ่นไหน ผมบอกจัดไปเลยลวกเพ่กับแผ่น Norah Jones Come away with me เพราะถือว่าเป็นแผ่นครู
หลังจากเลือกแผ่นได้ เค้าจะบรรจงวางแผ่นและปล่อยหัวเข็มลงให้ผมฟัง คนขายต้องมีความเนียนนิ่ง โฉ่งฉ่างไม่ได้เป็นอันขาด เพราะคนเล่นไฮเอนด์สวนมากขวัญอ่อน ขี้ตกใจง่าย การวางอะไรโครมคราม ถือว่าทำให้เสื่อมเสียสถาบันไฮเอนด์ว่างั้น 555
ถามผม ผมว่าในงานนี้ โต๊ะนี้น่าฟังสุดแล้ว พวกโต๊ะเล็กๆ หูฟังเล็กๆยี่ห้อแปลกๆ ส่วนมากผมฟังมาหมดแล้ว และก็อกหักไปหลายรอบแล้ว แต่เจ้าเทิร์น Talismann ค่าย Clearaudio เสียงก็โอเคดี ฟังกับ E.A.R. HP4 ได้ความฉ่ำหวานของหลอด เสียงร้องกระซี้กระซิกดีจัง
ผมเรียกไอ้เบียสมาฟังมั่ง เพราะปกติเราขายหูฟังเยอะขนาดนี้ เรามักจะรู้เชิงอยู่แล้วว่าอันไหนแววดี อันไหนแววมยุรา พออันไหนดีผมจะสะกิดเบียสเข้ามาช่วยฟังด้วย เผื่อถ้าจะต้องเอามาขายจะได้จำถูกว่างั้น ส่วนอันไหนฟังแล้วแววไม่ดี ก็จะข้ามๆๆไปมั่งล่ะครับ 555
ป่ามป๊าม มาถึงบู้ทของ Hifiman แล้วครับ ชั้นนี้เป็นชั้นสุดท้ายคือชั้นที่ 6 ผมตั้งใจว่าจะแวะมาหาเจ้า Fang Bian ซะหน่อย แต่ทางผู้จัดการใหญ่บอกว่า Fang ติดภาระกิจ บินไปนิวยอร์คตั้งแต่วันที่ 6 แล้ว ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ไอเจอยูก็เหมือนกัน เพราะทุกวันนี้ผมก็คุยกับคนนี้อยู่ครับ
ไปถึงไม่พูดพล่ามทำเพลง ผมร้องขอ Hifman HE560 มาฟังก่อนทันที เพราะผมสั่งออร์เดอร์ไป 20 ตัว โดยไม่ได้ฟังอะไรทั้งสิ้น เพราะรู้ททางกันอยู่แล้วว่าเสียงน่าจะประมาณไหนล่ะครับ
ตัวนี้ผมให้มันอยู่กลางๆๆระหว่าง 500 กับ HE6 คือเนื้อยังอิ่มหนา ในขณะที่แหลมก็ดีขึ้นไปอีกหน่อย
แล้วผมต้องยืนทำหน้าลั้ลลาให้โลกได้รับรู้ มางานนี้ตั้งใจมาถ่ายรูปมุมนี้จริงๆครับ ผมกับทาง Hifiman ติดต่อกันมานานมาก ยอดขายก็จำหน่ายได้เรือยๆ แต่ทั้งนี้อย่าเอาไปเทียบกับทางฝั่งอเมริกาหรือยุโรปนะครับ ผมน่าจะจำหน่ายน้อยกว่าทางนู้นมากหลายเท่า
นี่ก็กังวลว่าจะโดนเจ้า Fang ไล่เตะเอาหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ทำไงได้ครับ ตลาดยอดบนๆของไทย คนซื้อแทบจะจำหน้ากันได้หมดแล้ว เอ้า มาช่วยกันบูมตลาดดีกว่า 555
นี่เลย ผู้จัดการประจำภาคพื้น Asia Pacific คุณ Ricardo Yeh นั่นเองครับ ผมขำเหมือนกัน คือผมเดินเข้าไปใกล้ๆบู้ท แต่ไม่พูดอะไร พอเจ้า Yeh หันมาเจอหน้าผม แกร้องว้าว อ้าปากหวอ แล้วหัวเราะดังลั่น อ้าปากกว้างขนาดนกพิราปบินเข้าปากได้ก็แล้วกัน 555
ผมคุยกันไปพักใหญ่และทดลองฟังสินค้าที่ออกใหม่กันไปอีกพักใหญ่ๆเช่นกัน
อันนี้เป็นแท่น Dock ตัวเป็นๆๆของ Hifiman 901 นะครับ ถ้าโชคดีไม่โดนหวยกินรวบ อีกราวๆ 2-3 เดือนน่าจะมีจำหน่ายได้นะครับ ใครที่มี 901 อยู่ในครอบครองหรือมีไว้เสพย์ งานนี้ได้จ่ายตังค์ค่า Dock เพิ่มอีก 555
ดูกันให้ชัดๆๆ ครับ สำหรับ 560 วันนี้ผมทำสกู๊ปแบบเอาให้ตายกันไปข้างนึง ไม่ต้องขี้ไม่ต้องเยี่ยว เพื่อตอบสนองแฟนๆๆทุกท่านที่ไม่ได้อ่านสกู๊ปของผมมาน๊านนาน
ต่อไปสัญญาเลยครับ ว่าจะหาเวลาเขียนรีวิวและสกู๊ปให้อ่านกันมากกว่านี้จ้าๆๆๆ 555
เอ๊ะ Hifiman มีสายอัพเกรดเส้นนี้ด้วยหรือนี่ 555 |
ก่อนลาจากกัน ผมบอก Ricardo Yeh ว่าเดี๋ยวเจอกันอีกว่ะ แล้วผมก็ขอกอดกันให้หายคิดถึงหน่อยครับ 555 |
เดินจากมาจาก Hifiman ผมมาเข้าห้องสุดท้าย คุณสินมหาจักรบอกว่ามาดูห้องนี้ซิเฮียมั่น เค้ากำลงกินโต๊ะจีนกันอยู่พอดี ผมร้องไหนๆๆ ดูมั่ง ผมชะโงกหัวเข้าไปดู ปรากฏว่าจริงๆด้วย เค้ากำลังล้อมโต๊ะจีนกินหมูหันกันหรือนี่ 555
งั้นผมเอาด้วย สั่งเปาฮื้อกับหูฉลามกินเลยก็แล้วกัน จ๊ากๆๆๆๆ 555 |
ตรงนี้เป็นห้องของ audiotehica ครับ หูฟังหลายๆรุ่นกำลังได้รับความนิยมในไทยช่วงนี้เหมือนกันจ้าๆๆๆ
แบรนด์ Audio Technica เป็นยี่ห้อญี่ปุ่นแท้ๆอีกอัน หลายปีที่ผ่านมาลุ่มๆดอนๆ คือขายได้ในบางไลน์ แต่ช่วงปีที่ผ่านมานี้เหมือนมีผีมาสิง อะไรหลายๆอย่างผกผันเปลี่ยนไปได้
ภาพอาจจะไม่ชัดเจนนัก เพราะผมไม่ได้ถ่ายเน้อๆๆๆ 555
กำลังจะเดินออกจากงาน ปรากฏว่าเห็นแอมป์อะไรแว่บๆ ตอนแรกผมเกือบจะเดินผ่านด้วยซ้ำ แต่พอมองไปอีกที อ้าวเฮ้ย นี่มันบักคูณเสียงแคน หรือ Bakoon ที่ผมจำหน่ายอยู่นั่นเอง เย้ๆๆๆ
ผมเข้าไปแนะนำตัวเองว่าผมเป็นดีลเลอร์ของทาง deco2000 อีกที อาเฮียแกพยักหน้าหงึกๆแบบไม่ค่อยเชื่อน้ำหน้าผมนัก นึกว่าผมมั่วนิ่มทำนองนั้น 555
ได้รับความสนใจมากเหมือนกันสำหรับ Bakoon ครับ แอมป์ Bakoon นั้นผมว่าให้เสียงที่ถูกหูคนไทยได้ง่ายดาย คือมันเนียน สบาย ไม่รุกเร้า ฟังเพลินสุดๆๆ แต่ราคาก็สูงอยู่พอควรเช่นกัน
หลายคนคงคุ้นกับ Bakoon ที่ร้านเรือธง แต่อันนี้เป็นตัวใหม่ คือตัวพกพาเลยล่ะครับ งานนี้พกใหญ่กว่าแอมป์ทั่วไป แต่เล็กกว่าตัวเดิม(ล่ะวะ) ไซส์ก็ถือว่าพอพกไหวครับ ใครมีย่ามสามารถใส่ตาลปัตรหรือแอมป์ Bakoon Mobile ตัวนี่้ได้เลยล่ะครับ 555
เมื่อกี๊ทักทายกันไป ตอนนี้โต๊ะว่างแล้ว ผมเลยรีบเสียบตูดลงไปนั่ง ไม่งั้นอดฟังแน่ๆๆครับ และก็ตามคาด เจ้าตัวเล็กนี่เล่นกับหูฟังราคาไม่ต้องแพงมากก็ยังให้เสียงที่ดีโคตรๆๆ ผมขอบคุณทาง Bakoon และบอกกับเค้าว่าจะให้ทาง Deco2000 รีบติดต่อสอบถามมาคร้าบบ 555
แล้วผมก็ลางาน Tokyo Headphone Festival แต่เพียงเท่านี้ ลงมาถ่ายภาพหน้าตึก Sunplaza ซะหน่อยนึง เหม่อมองขึ้นบนท้องฟ้าแล้วรำพึงรำพันกับตัวเองว่า สักวันเราต้องจัดงานหูฟังแบบนี้ให้ได้ จัดให้ได้ซัก 5 ชั้นแบบเค้า เปิดให้เข้าชมฟรีแบบเค้า
เจ้าเบียสบอกผมว่า เฮียๆ ผมว่าเราไปเปิดนวดน้ำมันหรือสปาให้ได้ 5 ชั้นน่าจะง่ายกว่านะเฮียๆๆๆ ผมบอกว่าเอางั้นก็ดี งั้นเลิกขายหูฟังกันดีกว่า 5555
ตามไปอ่าน Episode 4
เร็วๆ นี้จ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น